สินค้าคุณภาพจากต่างประเทศ กางเกงในชายแฟชั่น กางเกงว่ายน้ำชายเทรนใหม่ กางเกงออกกำลังกายสามส่วน เวย์โปรตีนชั้นนำ เสื้อกล้ามต่างประเทศ คอลลาเจนอาหารผิวสาวหนุ่มผิวใสฟรุ้งฟริ้ง

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เล่นเวทแบบโตเร็ว

วิธีฝึกแบบไจแอนด์ให้กล้ามโตไว ฝึกอก 5ท่า ติดต่อกัน ไม่หยุด และฝึกหลัง 5ท่าติดต่อกันแบบไม่หยุด จะทำให้เลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณทีื่เราบริหาร จนกล้ามฟู ฝึกตามผลที่ได้คือ หุ่นดี เท่ห์ สมาร์ท

ฝึกยกเวท แนวเกาหลี3

ฝึกเวทแนวเกาหลี ในสเตป2 จะแบ่งการฝึกออกไปอีก ซึ่งเป็นการฝึกไม่ซ้ำกัน ในแต่ละวัน ให้ลองชมดูและฝึกกันไป ส่วนใหญ่ที่สำเร็จจะมาจากความตั้งใจฝึก ยกเวทกันครับ

ฝึกเวทสไตล์เกาหลี2

ฝึกเวท แนวเกาหลี ซึ่งไม่ต่างอะไรจากที่เราเคยศึกษากันมา ่แต่จะให้ดูว่า บ้านเขากับเราก็มีคนที่สนใจเล่นเวทกันมากขึ้น เป็นการฝึกกล้ามหลังและหน้าแขน แต่เหมือนจะคลิปวีดีโอ เสียงจะซ้ำซ้อนอดทนฟังนิดคับ

ฝึกเวท สไตล์เกาหลี

ฝึกกล้ามเบื้องต้น เราจะไปดูกันว่า ฝึกแบบไหน รับรองว่า กล้ามเราจะพัฒนาไปได้อย่างดี ไม่ต้องกลัวใหญ่เพราะการฝึกแค่1-2ปีแบบเบา จะทำให้กล้ามขึ้นสวยงามครับ ฝึกตามเทรนเนอร์นายแบบเกาหลี สัปดาห์ละ4ครั้ง

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ฝึกตามSony

ทั้งเล่นเวท และคาดิโอ ในตัว พร้อมสลับการฝึก แบบ street workout หุ่นคุณก็เจ๋งได้แบบขั้นเทพเลย หากไปสาธารณะ เห็นราวเหล็กคู่และเดี่ยว ฝึกแบบ street workout หากเข้ายิม ก็ฝึกแบบเล่่นเวท อย่างน้อยสัก 25เซท -30เซท

kickboxing คาดิโอรวดเร็ว

การคาดิโอ สามารถทำได้หลายวิธี การคาดิโอคือการทำให้หัวใจเต้นมากกว่าปกติ ในระดับสูง แต่ต่อเนื่องด้วยท่าเปล่าที่เรียกว่า kickboxing คิกบ๊อกซิ่ง ทำตามเทรนเนอร์เลยครับ เพียง30นาที ร่างกายคุณจะใช้พลังงานเกือบ 450กิโลแคลอรี่เลยทีเดียวครับ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

BARBELL PREACHER CURL ท่าฝึกหน้าแขน

BARBELL  PREACHER  CURL
ท่าฝึกหน้าแขนที่มีความสำคัญอย่างมาก ทำให้ดูทรงพลังและสวยงาม
จังหวะที่ 1 เริ่มด้วยการถือบาร์เบลล์ แล้วเอา ต้นแขน  ทั้งสองข้างพาดไว้บนเบาะ เหยียดแขนออกไป จัดท่าทางให้ได้ตามภาพในจังหวะที่ 1
 
 จังหวะที่ 2 เริ่มม้วนข้อ (Curl) ยกบาร์เบลล์ขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับหายใจออก จนยกบาร์ขึ้นมาอยู่ในจุดสูงสุดตามภาพในจังหวะี่ 2 ก็จะหายใจออกหมดปอดพอดี
 
 จากนั้นค่อยๆผ่อนคานบาร์ลงอย่างช้าๆพร้อมกับหายใจเข้า จนเมื่อบาร์เบลล์อยู่ในจุดต่ำสุดในจังหวะที่ 1 แล้ว ก็หายใจเข้าเต็มปอดพอดี แล้วนับว่า "1"
 
 บริหารซ้ำตั้งแต่เริ่มใหม่ แล้วนับต่อไปเป็น "2" "3" ตามลำดับ จนครบจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ เช่นครบ 10 ครั้ง ก็ถือเป็น 1 เซท วางบาร์เบลล์ไว้บนที่วาง  พักระหว่างเซท 1 นาที แล้วจึงเริ่มบริหารเซทต่อไป
 

อาหารคนเล่นเวท

อาหารสำหรับคนที่เริ่มเล่นเวท มีดังนี้
มื้อเช้า
ต้อง เป็นมื้อหนัก ต้องกินให้อิ่ม เพราะคุณนอนมาทั้งคืน 8 ชั่วโมงไม่มีอะไรตกถึงท้อง มื้อนี้จึงเป็นมื้อที่สำคัญมาก ห้ามอดเด็ดขาด เพราะคุณต้งการพลังงานไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่ารวบไปกินกับมื้กลางวันเป็นมื้อเดียว เพราะในการที่คุณอดข้าวเช้า ร่างกายก็จะนำโปรตีนที่คุณอุตสาห์เอามาสร้างเป็นกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน แทน เพราะตอนเช้าไม่มีอะไรตกถึงท้อง ก็ไม่มีอาหารมาให้พลังงานจากไขมันมาใช้ในการเผาผลาญ ร่างกายจึงดึงโปรตีนมาใช้ยังไงครับ ทำให้การเล่นกล้ามไม่ได้ผล และการอดมื้อเช้ายังทำให้ร่างกายหลั่งสารที่ทำให้หิวออกมามากกว่าปกติในมื้อ เย็นอีกด้วย ทั้งที่มื้อเย็นไม่ควรกินหนักมาก เพราะไม่ต้องการพลังงานเยอะมาก เพระพลังงานที่จะเอาไปใช้ในตอนเล่นกล้ามก็จะเป็นมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ครับ มื้อเช้าที่แนะนำก็เป็น ข้าวกล้อง 2 ทัพพี ไข่กวน 4 ฟอง ไข่แดง 2 ฟอง ไข่ขาว 2 ฟอง หรือจะกินแบบใช้ไข่ขาวอย่างเดียวก็ได้ 4  ฟอง กับผัดผักอะไรก็ได้ ตบท้ายด้วยนมสด 1 แก้ว หรือเป็นโยเกิร์ตก็ได้ ถ้ากินข้าวนอกบ้านก็เป็น ข้าวกล้อง 2 ทัพพี ไข่ดาว 2 ฟอง ( ไข่เจียวจะอมน้ำมัน ) ผัดผักอะไรก็ได้ ตบท้ายด้วยนมสด 1 ขาวดเล็ก หรือโยเกิร์ต หรือเป็นข้าวกล้อง 2 ทัพพีกับเกาเหลาหมูก็ได้ ถ้าใส่เครื่องในด้วยก็ขอให้ใส่ตับอย่างเดียว นอกนั้นเป้นเนื้อหมู และปิดท้ายด้วยนมสด ข้าวกล้องถ้าเป็นไปได้ ให้กินทุกมื้อเพราะ ข้าวกล้อง 2 ทัพพีให้โปรตีนถึง 15 กรัม จะได้ไม่ต้องลำบากเวลาหากับข้าวมาทานในมื้อนั้นๆมากไงครับ
มื้อกลางวัน
ต้อง เป็นมื้อที่กินอิ่มแบบพอดีๆ เป็นข้าวกล้อง 1 ทัพพีครึ่ง ถึง 2 ทัพพี เกาเหลาหมู ถ้าใส่เครื่องในก็เป็นตับอย่างเดียว ที่เหลือเป็นเนื้อหมู และปิดท้ายด้วยนมสด 1 แก้ว
มื้อเย็น
เป้นข้าวกล้อง 1 ทัพพี ถึง 1 ทัพพีครึ่ง กับปลานึ่ง หรือทอด ถ้าจะทอดก็ต้องทอดกับน้ำมันถั่วเหลือง เช่นปลาทูนึ่ง หรือทอด ซัก 2 - 3 ตัว ( แล้วแต่ขนาดตัวของปลา ) กับพวกผักจิ้มน้ำพริก และปิดท้ายด้วยนมสด หรือจะกินเกาเหลาอีกมื้อก็ได้ไม่ว่ากัน 5555  มื้อเย็นต้องห่างจากช่วงที่เราเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
มื้อก่อนนอน
ก่อน นอนครึ่งชั่วโมง กินผลไม้ที่มีกากใย หรือที่ช่วยเรื่องขับถ่าย กับนมสด 1 แก้ว ถ้าเล่นเพาะกายได้มากกว่า 3 - 4 เดือน ก็จะเพิ่มเป็น ไข่ต้ม 2 - 3 ฟอง กินแต่ไข่ขาว กินให้อิ่มพอดี ถ้าอิ่มมาก จะทำให้เราอึดอัดเวลาเรานอน และอาจทำให้นอนไม่หลับ และควรหลับสนิทให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะร่างกายจะได้ย่อยอาหารให้หมดจดในช่วงเวลาที่เรานอน ถ้าเรากินมื้อก่อนนอนแล้วนอนไม่พอ มันก็จะย่อยไม่หมด พอตื่นเช้าเรากินข้าวเช้าเข้าไป มื้อที่กินก่อนนอนก็จะตกตะกอนเป็นไขมัน ถ้ารู้ว่าวันไหนที่ต้องตื่นเช้าและอาจนอนไม่พอ กินนมสด 1 แก้วกับผลไม้นิดหน่อยพอ ถ้าร่างกายเติบโตได้เร็ว อาจมีอาการหิวระหว่างนอน ให้ตื่นมากินนมสด 1 แก้วเล็ก แล้วกลับไปนอนต่อครับ
มื้อเบาๆ
ให้ กินระหว่างมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน 1 มื้อ และกินระหว่างมื้อกลางวันกับมื้อเย็นอีก 1 มื้อ เช่นไข่ต้ม 2 - 3 ฟอง กินแต่ไข่ขาวกับนมถั่วเหลือง 1 ขวด หรือกินกับกล้วยหอม 1 ผล หรือเป็นไก่ย่าง 1 - 2 น่อง ( แล้วแต่ขนาด ) กับนมถั่วเหลือง 1 ขวด หรือกับกล้วยหอม 1 ผลครับ และตบท้ายเป้นแอปเปิ้ลหรือ ฝรั่ง 2 ชิ้น ถ้าไม่สะดวกให้ซื้อนมสดมา 1 ขวดใหญ่ ครึ่งขวดแรกกินระหว่างมื้อเช้ากับมื้อกลางวัน และครึ่งขวดที่เหลือกินระหว่างมื้อกลางวันกับมื้อเย็น กินกับผลไม้มื้อละ 2 ชิ้น ( ถ้าคุณกินนมเปล่าๆแล้วไม่มีท้องเสียนะ ) ผลไม้ ให้หาแอปเปิ้ลหรือฝรั่งมา 1 ลูก ผ่าให้ได้ 8 ชิ้น ก็จะกินประกอบกับมื้อเบาๆได้มื้อละ 2 ชิ้น
มื้อก่อนเล่น และหลังเล่น
ถ้า มีอาการหิวก่อนเล่น ให้กินโยเกิร์ต 1 ถ้วย หรือ นมถั่วเหลือง 1 ขวด ก่อนเล่นกล้ามครึ่งชั่วโมง และต้องเล่นกล้ามหลังอาหารมื้อหนัก หรือมื้อเบาๆมื้อล่าสุด 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมงครับ เพราะร่างกายในช่วงเวลาเล่นกล้ามต้องอยู่ในช่วงที่ร่างกายดูดซึมอาหาร ไม่ใช่ย่อยอาหาร หลังเล่นกล้าม ให้เตรียมมื้อเบาๆพกไว้กินหลังเล่น 20 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง และต้องกินภายใน 45 นาทีหลังเล่นกล้ามเสร็จ เพราะเป็นนาทีทองของการดูดซึมอาหาร หรือหลังเล่นกล้าม กินมื้อหนักเลยก็ได้ครับ กินภายใน 45 นาที แต่ต้อง หลังเล่นกล้ามเสร็จ 15 - 20 นาที หลังเล่นกล้ามเสร็จ   ถ้าคุณเล่นกล้ามหลังอาหารทันที นอกจากจะทำให้จุกและเล่นไม่เต็มที่แล้ว ( ร่างกายเหนื่อยเป็น 2 เท่า เพราะต้องย่อยอาหารไปด้วย ยกเวทไปด้วย ซิทอัพก็ไม่ไหว ) เมื่อเล่นเสร็จ ร่างกายก็จะหิวโดยอัตโนมัติ และทำให้เราต้องกิน แต่ มื้อเก่ายังไม่ได้นำไปใช้เลย ( เพราะมันยังย่อยไม่หมด ) และเรารับมื้อใหม่ๆเข้ามา ท้องเราก็จะอัดแน่นไปด้วยอาหารครับ ทำให้กระเพาะย่อยได้ไม่หมดเพราะประสิทธิภาพในการย่อยห่วยลง เมื่อ ย่อยไม่หมด นอกจากจะถูกขับถ่ายออกจากร่างกายโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ส่วนที่เหลือยังเปลี่ยนไปเป็นไขมันส่วนเกินอีกด้วย
ระยะห่างระหว่างมื้อ
ซัก 2 - 3 ชั่วโมงกินที แต่ไม่ควรกินมื้อใหญ่ 2 มื้อติดกัน ถ้าจำเป็น เช่นมื้อเช้ากิน 9 โมง และมื้อกลางวัน กินเที่ยง มื้อกลางวันก็กินพออิ่ม และให้เก็บมื้อเบาๆ 2 มื้อไปกินหลังมื้อกลางวัน และ กินหลังเล่นกล้ามครับ
ถ้าเราทานตามที่แนะนำจะเห็นได้ว่า ต้องใช้งบการเงินมากพอสมควร คนหนึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ เดือนละ15000บาท ซึ่งเป็นราคา ณ ปี2556 หากต่อไปข้างหน้า ไม่แน่ราคาอาหารอาจเพิ่มมากกว่าีนี้ หากเราไม่มีงบขนาดนี้ ก็ค่อยๆเพิ่มอย่าเพิ่งไปทานเหมือนในตารางที่ให้มาครับ

เริ่มต้นเล่นเวท

ปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการในการเล่นกล้าม
1. การฝึกอย่างถูกต้อง
การ เริ่มต้นที่ถูกต้องนั้นสำคัญมาก ทำให้เราออกตัวได้เร็วกว่าคนอื่น ทำให้เราไล่ตามคนที่ออกตัวไปก่อนเราได้ทัน และ ทำให้เราสามารถแซงคนที่เร่งการฝึกให้หนักเข้าไว้แต่แรก จนเร่งไม่ขึ้นแล้ว เพื่อที่จะได้เดินทางไปสู่ที่หมายอย่างปลอดภัย  และรวดเร็วที่สุด ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล อย่าคลำทางเองมั่วๆ และอย่าออกนอกลู่นอกทาง เพราะอาจจะทำให้สะบักสะบอมเสียก่อนได้ กว่าที่จะกลับมาเข้าที่เข้าทาง ก็จะทำให้เสียเวลา และกล้ามขึ้นได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็นในช่วงแรกของการฝึก เพราะร่างกายต้องซ่อมไปด้วย สร้างไปด้วย
2. อาหารการกินที่มีคุณภาพ
อาหาร การกินในแต่ละวันต้องเป็นอาหารที่มีคุณภาพ ไม่ใช่อาหารขยะ โดยต้องกินให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และต้องกินให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารโปรตีน เพราะต้องนำไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และอาหารคาร์โบไฮเดรต ที่ใช้เป็นพลังงานในชีวิตประจำวัน แต่อาหารอื่นๆ ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
3. การพักผ่อนที่เพียงพอ
เมื่อ ร่างกาย ผ่านการใช้งานมาหนักๆแล้ว ร่างกาย ก็ต้องการเวลาในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน และร่างกายจะมีเวลาซ่อมแซมกล้ามเนื้อมากที่สุดก็ตอนที่เวลาเรานอน โดยต้องมีเวลานอนอย่างน้อยคืนละ 7 - 8 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ ในการพักฟื้นร่างกาย เมื่อฝึกเพาะกายมานานมาขึ้น ร่างกายก็จะต้องการเวลาพักผ่อนที่มากกว่านี้ โดยให้เข้านอนแต่หัวค่ำ พยายามเข้านอนให้ได้ก่อน 4 ทุ่ม ( อย่างช้าที่สุดเที่ยงคืน ) เพราะเป็นช่วงเวลาที่ โกรว์ธ ฮอร์โมน ที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายหลั่งออกมามากที่สุด เมื่อมีเวลานอนมาก ร่างกายก็มีเวลาในการหลั่งโกรว์ธ ฮอร์โมนมากเช่นกัน และนอนหลับให้ได้คืนละ 7 - 8 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย เพราะจะได้ซ่อมแซมร่างกายตอนเรานอน ทำให้เรามีลพะกำลังที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน ในวันต่อไป ถ้านอนไม่พอ นอกจากเพลีย เมื่อยล้าแล้ว ยังทำให้ออกกำลังกาย เรียน และทำการทำงานไม่ได้เต็มที่อีกด้วย ถ้าหลับยาก ก็ให้นั่งสมาธิก่อนนอนก็จะช่วยได้มาก
4. หัวจิตหัวใจ
เรื่อ เพาะกายนั้น การเตรียมพร้อมร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ แต่เรื่องใจนั้น ต้องมาก่อน หากเรากล้าที่จะฝึก โดยยึดหลักการฝึกที่ถูกต้อง ก็จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่ง และต้องฝึกอย่างอดทน อดทนต่อภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น อดทนต่อจิตใจตัวเองที่อยากจะไปให้ไวๆจนอาจจะนอกลู่นอกทาง อดทนต่อการฝึกที่ต้องค่อยๆขยับไปเป็นขั้นเป็นตอน อดทนต่อระยะเวลา ที่เรารู้สึกว่า ร่างกายที่เราอยากได้ มันช่างไลเกินเอื้อม ถ้าใจเราสู้ซะอย่าง ร่างกายที่เราคาดหวังไว้ ก็จะไม่ไกลเกินเอื้ม และก็ไปถึงอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้
อุปกรณ์ที่สำคัญในการฝึก
  1. ม้าฝึกแบบปรับเป็นม้าราบและเอียงสูงได้ ( จะมีที่เล่นกล้ามต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง หรือไม่ต้องมีก็ได้ ) และมีขาตั้งอยู่ที่หัวม้าฝึก สำหรับฝึกอก หรือฝึกท่าอื่นๆในท่านอน
  2. คานบาร์เบลล์อย่างน้อย 2 อัน 10 ฟุต 1 อัน และ 4 - 5 ฟุตอีก 1 อัน เอาไว้แยกเล่นกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก
  3. คานดัมเบลล์อย่างน้อย 1 - 2 คู่ เพราะจะได้ปรับน่ำหนักได้หลายๆขนาด คู่แรกสำหรับใส่น้ำหนักเบา และอีกคู่นึง สำหรับ ใช้น้ำหนักในการฝึกที่หนัก เอาไว้สำหรับฝึกในเพาะกายขั้นกลาง
  4. ชุดลูกเหล็กหลากหลายขนาดอีก 1 ชุด อย่าซื้อมาแต่ลูกใหญ่อย่างเดียว ให้ซื้อลูกเล็กๆด้วย เช่น 0.5 , 1 , 1.25 , 1.5 , 2 , 2.5 , 3 , 4 และ 5 ก.ก. เพราะการเพิ่มน้ำหนักลูกเหล็กเมื่อเราฝึกจนเบา จะเพิ่มเข้าไปแค่ครั้งละ 0.5 - 1 ก.ก. เน้น ไม่เกิน 1.5 - 2 ก.ก.
  5. ขาตั้งสำหรับฝึกต้นขาท่าสค๊วต ถ้าอยากมีหุ่นแบบไม่อายใคร ก็ต้องฝึกท่านี้ และในอนาคต เมื่อเราแข็งแรงมากขึ้น ก็จะใช้ขาตั้งนี้ สำหรับฝึกกล้ามไหล่ได้ โดยอาจจะหาร้านเชื่อมเหล็ก แล้วสั่งทำให้ก็ได้ ราคาก็ต่อรองกันเอาเอง หรือหาไม้มาประกอบก็ได้ วัดขนาดดีๆ และประกอบให้แข็งแรงและคงทน เป็นขาตั้งแบบแยกชิ้น 2 ข้าง แบบที่นักยกน้ำหนักทีมชาติเขาใช้กัน เวลาจะฝึกก็ยกออกมา เวลาฝึกเสร็จก็ยกเก็บได้สะดวก
  6. เข็มขัดที่ใช้สำหรับยกน้ำหนัก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากเช่นกัน เพราะจะได้ใส่เอาไว้เวลาฝึกในท่ายืน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหลังส่วนล่าง เพราะหลังส่วนล่างรับน้ำหนักได้อย่างมากแค่ 4 ก.ก.เท่านั้น ตอนแรกไม่ใช้น้ำหนักลูกเหล็กในการฝึกหนักมากก็จริง แต่เมื่อเราแข็งแรงมากขึ้น เราก็จะใช้น้ำหนักในการฝึกได้มากขึ้น และก็จะมีเปอร์เซนต์ในการเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บมากขึ้น แม้ว่าเราจะเคลื่อนไหวการฝึกอย่างถูกท่าก็ตาม ( อันนี้ สำคัญมาก )
  7. มีเนื้อที่ภายในบ้านอย่างเพียงพอ ที่จะวางอุปกรณ์ได้อย่างไม่เกะกะ ทำให้สะดวกในการฝึก

ีครีเอทีน คืออะไร

ครีเอทีน โมโนไฮเดตร คืออะไร
ครีเอทีน จะเป็นสารอินทรีย์ที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ ซึ่งพบในเฉพาะสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังเท่านั้น ซึ่งหมายถึงคนด้วย
สังเคราะห์จากกรดอะมิโน เมทไธโอนีน อาร์จินีน และไกลซีน โดยการสังเคราะห์จะเกิดขึ้นที่ตับ
95% ของครีเอทีนในร่างกายคนจะพบในส่วนของกล้ามเนื้อ

ครีเอทีนทำงานอย่างไร
ในช่วงที่เราออกกำลังกายแบบ anaerobic หรือไม่ใช้ออกซิเจน เช่น การยกน้ำหนัก วิ่งระยะสั้น หรือออกกำลังกายแบบโดยใช้เทคนิค Explode ร่างกายจะต้องพลังงานจากฟอสเฟต (phosphate) ซึ่งได้จาก ATP หรือ adenosine triphosphate (มีฟอสเฟต 3 ตัว)
หลังจากให้ฟอสเฟตแล้ว ก็จะกลายเป็น ADP หรือ adenosine diphosphate (มีฟอสเฟต 2 ตัว)
การที่ ADP จะกลับมาให้พลังงานได้อีกครั้ง ก็ต้องไปรับเอาฟอสเฟตมา โดยสารที่ทำหน้าที่เก็บฟอสเฟตก็คือ ครีเอทีน ซึ่งอยู่ในรูปของ ครีเอทีนฟอสเฟต
สรุปง่ายๆก็คือ ครีเอทีน ก็เปรียบเสมือนถังเก็บพลังงานให้แก่ร่างกาย ที่ใช้ในการออกกำลังกายแบบ anaerobic

ทานวันละเท่าไหร่
มีหลายสูตรสำหรับการทานครีเอทีน แต่สูตรที่เป้นมาตรฐาน และหลายๆสำนักให้การยอมรับก็คือ
Load วันละ 20-25 กรัม เป็นเวลา 5-7 วัน
maintenance วันละ 5-10 กรัม เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
และ พัก 2-4 สัปดาห์ จึงกลับมาโหลดใหม่อีกครั้ง